“ผีดิบหยิบแชมป์กลุ่ม” สรุปผลการแข่งขัน “ยูโร 2024” รอบคัดเลือก กลุ่มไอ ประจำวันที่ 21 พฤศจิกายน 2023

“ผีดิบหยิบแชมป์กลุ่ม” สรุปผลการแข่งขัน “ยูโร 2024” รอบคัดเลือก กลุ่มไอ ประจำวันที่ 21 พฤศจิกายน 2023

“โรมาเนีย” เข้าป้ายเป็นแชมป์กลุ่มด้วยสกอร์เดียวในช่วงต้นครึ่งหลัง พร้อมผลการแข่งขันทั้งหมดของกลุ่มไอ

 

 

banner1

ฟุตบอล “ยูโร 2024” รอบคัดเลือก กลุ่มไอ

ทีมชาติโรมาเนีย 1 – 0 ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์

               ที่สนามเนชั่นแนล อารีน่า บูคาเรสต์ เจ้าถิ่นอย่าง “โรมาเนีย” เปิดบ้านรับการมาเยือนของ “สวิตเซอร์แลนด์” ซึ่งต่างฝ่ายต่างตีตั๋วลุย “ยูโร 2024” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งกุนซือเจ้าถิ่นอย่าง เอ็ดเวิร์ด ยอร์ดาเนสคู แม้จะไม่สามารถใช้งานตัวรุกอย่าง วาเลนติน มิไฮล่า ที่ติดโทษแบนหลังถูกไล่ออกในนัดล่าสุด แต่ก็ยังจัดผู้เล่นชุดหลักลงสนาม มีกองหน้าตัวเก๋าอย่าง เดนิส อลิเบ็ค ลงล่าตาข่าย ทางด้านกุนซือทีมเยือนอย่าง มูรัตยาคิน มีการปรับเปลี่ยนผู้เล่นบางตำแหน่ง แต่ก็ยังมีตัวเก๋าอย่าง แซร์ดาน ชาคิรี่ และกัปตันทีมอย่าง กรานิต ชาก้า ลงสนามเช่นเดิม

               เริ่มเกมในครึ่งแรก เป็นทางด้านทีมเยือนที่ครองเกมได้มากกว่า รวมถึงมีโอกาสขึ้นนำที่จะแจ้ง จากลูกยิงด้วยซ้ายหน้ากรอบเขตโทษของ โนอาห์ โอกาฟอร์ ที่ต้องเดือดร้อนผู้รักษาประตูเจ้าถิ่นอย่าง โฮราติอู มอลโดวาน ต้องบินปัดป้องกันประตู ขณะที่เจ้าถิ่นแม้จะครองเกมน้อยกว่ามาก แต่โอกาสทำประตูกลับมีมากกว่า จากเหล่าตัวรุกอย่าง ฟลอริเนล โคมาน หรือ อเล็กซานกดรู ซิคัลดาอู แต่ก็ยังไม่ผ่านมือผู้รักษาประตูทีมเยือนอย่าง ยอน เอ็มโฟโก้ เช่นกัน ทำให้จบครึ่งแรกด้วยการเสมอกันแบบไม่มีสกอร์

               เข้าสู่ครึ่งหลังได้ไม่ถึง 5 นาที กลายเป็นว่าเจ้าถิ่นที่ครองเกมได้น้อยกว่าในครึ่งแรกกลับเป็นฝ่ายออกนำไปก่อน จากการเปิดบอลเข้าด้านในของ นิโคเล สตานซิอู ก่อนที่ โอลิมปิอู โมรูตัน จะโหม่งชงให้ เดนิส อลิเบ็ค ชาร์จจ่อๆ ด้วยซ้ายในกรอบ 6 หลาเข้าประตูไป หลังจากขึ้นนำ กลายเป็นว่าเจ้าถิ่นยิ่งคึกหนักและเกือบจะได้ประตูหนีห่างจาก เดนิส อลิเบ็ค เช่นเดิม แต่เป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน เดือดร้อนถึงทางทีมเยือนที่ต้องเดินหน้ารุกมากยิ่งขึ้น และมีโอกาสทั้งจากลูกยิงของ โนอาห์ โอกาฟอร์ และ รูเบน วาร์กาส แต่ก็ยังไม่ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่นเช่นเดิม ทำให้จบ 90 นาที เป็นทางด้านเจ้าถิ่นที่เปิดบ้านเก็บ 3 แต้มได้สำเร็จด้วยสกอร์ 1-0 พร้อมคว้าแชมป์กลุ่มไอไปได้แบบไม่แพ้ใคร

ผู้เล่นที่ลงสนามของทั้ง 2 ทีม

ทีมชาติโรมาเนีย (4-1-4-1) โฮราติอู มอลโดวาน – อันเดร ราติอู, ราดู ดรากูซิน, อันเดร บูร์ก้า, นิคูซอร์ บันซู – มาริอุส มาริน – นิโคเล สตานซิอู (ดาริอุส โอลารู), อเล็กซานดรู ซิคัลดาอู (ราซวาน มาริน), โอลิมปิอู โมรูตัน (ยานิส ฮาจี้), ฟลอริเนล โคมาน (เดนิส ดรากุส) – เดนิส อลิเบ็ค (จอร์จ ปุสคัส)

ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ (4-3-3) ยอน เอ็มโฟโก้ – อูลิสเซส การ์เซีย (ฟิลิป อูกรินิช), มานูเอล อคานจี, นิโก้ เอลเวดี้, ริคาร์โด้ โรดริเกซ – มิเชล เอบิเชอร์ (เรโม่ ฟรอยเลอร์), กรานิต ชาก้า, แดน เอ็นโดเย่ – แซร์ดาน ชาคิรี่ (เรนาโต้ สเตฟเฟ่น), โนอาห์ โอกาฟอร์ (เซกี้ อัมดูนี่), รุเบน วาร์กาส (แอนดิ้ เซคิรี่)

               ส่วนผลการแข่งขันอีก 2 คู่ในกลุ่มเดียวกัน เป็นทางด้านทีมเยือนที่เก็บ 3 แต้มได้ทั้งหมด เริ่มจากอิสราเอลที่ได้ประตูจากการทำเข้าประตูตัวเองของแบ็คซ้ายเจ้าถิ่นอย่าง โยน เซอร์วอส บวกกับลูกยิงด้วยซ้ายของ กาบี้ คินด้า บุกไปคว้าชัยเหนืออันดอร์ร่า 2-0 ส่วนอีกคู่ เป็นทางด้าน ดมิทรี อันติเลฟสกี้ ที่ทำประตูชัยในช่วงท้ายครึ่งแรกให้เบลารุสบุกเฉือนชนะโคโซโว 1-0 ทำให้สถานการณ์ในกลุ่มไอหลังจบรอบคัดเลือก เป็นทางด้านโรมาเนียและสวิตเซอร์แลนด์ที่ได้โควตาลุย “ยูโร 2024” โดยอัตโนมัติ ส่วนอิสราเอลได้โอกาสเพลย์ออฟเพื่อลุ้นตั๋วอีก 3 ที่นั่ง จากผลงานในศึก “ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก”

Leave a Reply