12 ชาติ รอบเพลยย์ออฟ ยูโร 2024 มาจากที่ไหน(ยู โร่ บอล)
อีก 3 โควต้าที่เหลือนั้นจะมาจากรอบเพลย์ออฟ ซึ่งการได้มาของทีมที่จะลงเล่นในรอบนี้ ไม่เกี่ยวข้องกันรอบคัดเลือกที่เพิ่งจบไปแต่อย่างใด แต่ไปเกี่ยวข้องกับ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก อีกรายการที่จัดโดยสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า
แม้ ยูฟ่าเนชั่นส์ลีก ฤดูกาล 2022-2023 จะได้ทีมแชมป์ไปแล้วตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2023 แต่ผลงานของแต่ละทีมในรายการนี้ มีผลโดยตรงกับโอกาสสุดท้ายในการเข้าไปเล่น ยูโร 2024 เพราะทุกทีมจะถูกนำมาจัดอันดับอีกครั้งเพื่อสรุปผลงาน
อันดับ 1-4 ของการแข่งขัน จะมาจากผลงานในรอบชิงแชมป์ของรายการ ซึ่งคือทีมแชมป์ของแต่ละกลุ่มในลีก A ส่วนอันดับอื่น ๆ เรียงจากผลงานในรอบลีก ลีก A ทีมที่เหลือเรียงอันดับ 5-16, ลีก B 17-32, ลีก C 33-48, ลีก D 49-55 ชาติสมาชิกยูฟ่ามี 55 ชาติ โดยทีมที่จบอันดับเดียวกันของแต่ละกลุ่มในลีกต่าง ๆ จะถูกจัดอันดับไว้ด้วยกัน หากแต้มเท่ากัน ให้ดูลูกได้เสีย
ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2022-2023 มีผลถึง ยูโร 2024
อันดับรวมใน ยูฟ่าเนชั่นส์ลีกจะถูกนำมาเทียบกับผลงานในรอบคัดเลือก ยูโร 2024 เพื่อหา 12 ชาติที่จะได้ลงเล่นในรอบเพลย์ออฟ แบ่งเป็น 3 สาย สายละ 4 ทีม โดยแชมป์กลุ่มจากลีก A B และ C จะได้สิทธิ์ก่อน หากทีมแชมป์กลุ่มทีมใดเข้ารอบสุดท้ายจากรอบคัดเลือกไปแล้ว สิทธิ์ดังกล่าวจะให้ทีมอันดับรองลงไป โดยทีมที่อยู่ในลีกเดียวกันได้สิทธิ์ก่อน หากยังเหลือโควต้าจากลีกใดลีกหนึ่ง จะถูกโอนสิทธิ์ให้ทีมในลีกรองลงไป และหากมีทีมแชมป์กลุ่มใดในลีก A ที่เข้ารอบสุดท้ายผ่านรอบคัดเลือก ทีมที่ผลงานดีที่สุดในลีก D จะได้รับอานิสงส์ เข้าไปเล่นในรอบเพลย์ออฟด้วย
ในกรณีของ ยูโร 2024 รอบเพลย์ออฟ เมื่อ ทีมชาติสเปน,ทีมชาติโครเอเชีย,ทีมชาติอิตาลี,ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ 4 ทีมแชมป์กลุ่มในลีก A เข้ารอบสุดท้ายจากรอบคัดเลือกอย่างถ้วนหน้า ทีมชาติเอสโตเนีย ทีมจากลีก D ที่ทำผลงานได้ดีที่สุด เลยได้ไปเล่นรอบเพลย์ออฟ และเนื่องจากมีเพียง ทีมชาติโปแลนด์ กับ ทีมชาติเวลส์ เพียง 2 ทีมจากลีก A ที่ต้องไปเหนื่อยต่อในรอบเพลย์ออฟ โควต้าอีกทีมที่เหลือจากลีก A เลยถูกโอนให้ลีก B ขณะเดียวกัน ทีมชาติเซอร์เบีย, ทีมชาติสกอตแลนด์ จากลีก B และ ทีมชาติตุรกี จากลีก C ผ่านเข้ารอบสุดท้ายจากผลงานในรอบคัดเลือกแล้ว โควต้ารอบเพลย์ออฟจากการเป็นแชมป์กลุ่มเลยตกไปอยู่กับทีมรองแชมป์ของแต่ละกลุ่มในลีก B และ C ตามอันดับสุดท้ายของการแข่งขัน
12 ทีมที่มีลุ้นไป ยูโร 2024 จากรอบเพลย์ออฟ ประกอบด้วย ทีมชาติโปแลนด์, ทีมชาติเวลส์ จากลีก A – ทีมชาติอิสราเอล, ทีมชาติบอสเนีย ทีมชาติฟินแลนด์, ทีมชาติยูเครน, ทีมชาติไอซ์แลนด์ จากลีก B – ทีมชาติจอร์เจีย, ทีมชาติกรีซ, ทีมชาติคาซัคสถาน, ทีมชาติลักเซมเบิร์ก จากลีก C และ ทีมชาติเอสโตเนีย จากลีก D โดยทีมที่เป็นแชมป์กลุ่มในลีก B และ C จะถูกล็อกไว้ในสายของตัวเอง, ทีมชาติเอสโตเนีย หนึ่งเดียวจากลีก D ถูกจับเข้าสาย A โดยอัตโนมัติ และ ทีมชาติฟินแลนด์, ทีมชาติยูเครน กับ ทีมชาติไอซ์แลนด์ 3 ทีมที่ไม่ได้เป็นแชมป์กลุ่มจากลีก B จะต้องมาจับสลากอีกครั้งเพื่อหาว่าทีมใดจะไปสายไหน ระหว่าง A กับ B ในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2023
เมื่อแต่ละสายได้ทีมครบ แรงกิ้งจาก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก จะถูกนำมาใช้อีกครั้งเพื่อประกบคู่ โดยทีมแรงกิ้งอันดับ 1 ของสาย เจออันดับ 4 ของสาย ทีมแรงกิ้งอันดับ 2 ของสาย เจออันดับ 3 ของสาย แข่งขันแบบนัดเดียวรู้ผล รอบรองชนะเลิศ วันที่ 21 มีนาคม 2024 ผู้ชนะจะไปชิงชนะเลิศกันในวันที่ 26 มีนาคม 2024 เพื่อหา 3 ทีมแชมป์ของแต่ละสาย เข้ารอบสุดท้าย ยูโร 2024