“สิงโตกินนิ่ม” สรุปผลการแข่งขัน “ยูโร 2024” รอบคัดเลือก กลุ่มซี ประจำวันที่ 17 พฤศจิกายน 2023
“แฮร์รี่ เคน” บวกสกอร์ให้ตัวเองในนามทีมชาติอีกครั้ง พร้อมสรุปผลการแข่งขันทั้งหมดของกลุ่มซี
ฟุตบอล “ยูโร 2024” รอบคัดเลือก กลุ่มซี
ทีมชาติอังกฤษ 2-0 ทีมชาติมอลต้า
ที่สนามเวมบ์ลีย์ “ทีมชาติอังกฤษ” จ่าฝูงของกลุ่มซี เปิดสนามรับการมาเยือนของทีมบ๊วยอย่าง “ทีมชาติมอลต้า” โดยนัดนี้กุนซือเจ้าบ้านอย่าง แกเร็ธ เซาธ์เกต ให้โอกาส 2 กองหลังอย่าง มาร์ค เกฮี และ ฟิคาโย่ โทโมริ ลงสนาม โดยมี แฮร์รี่ เคน สวมปลอกแขนกัปตันทีมเช่นเดิม ขณะที่ทีมเยือนของกุนซือ มิเคเล่ มาร์โคลินี่ จัดผู้เล่นชุดหลักลงสนามอย่างครบครัน นำโดย 2 พี่น้องเอ็มบองทั้ง โจซฟ และ พอล
แม้เจ้าบ้านจะชื่อชั้นดีกว่า แต่กลายเป็นว่าเริ่มเกมมาไม่ถึงนาที กลับเป็นมอลต้าที่ได้โอกาสลุ้นประตูก่อนจากลูกยิงหน้ากรอบเขตโทษของ เท็ดดี้ เทอม่า ที่เฉียดโคนเสาไปอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่ในนาทีที่ 8 อังกฤษจะได้ประตูขึ้นนำจากการสกัดบอลพลาดของกองหลังทีมเยือนอย่าง เอ็นริโก้ เปเป้ มาโดนผู้รักษาประตูเข้าประตูไป ซึ่งหลังจากประตูดังกล่าวยังคงเป็นอังกฤษที่ได้โอกาสครองเกมมากกว่าอย่างชัดเจน แต่ยังไม่สามารถบวกประตูเพิ่มได้ ทำให้จบครึ่งแรกด้วยการนำแค่สกอร์เดียว
ในครึ่งหลังเป็นทางฝั่งเจ้าถิ่นที่เปลี่ยน 2 ผู้เล่นอย่าง ไคล์ วอล์คเกอร์ และ บูกาโย่ ซาก้า ลงสนามแทน คอนอร์ กัลลาเกอร์ และ ฟิคาโย่ โทโมริ ซึ่งรูปเกมยังคงเป็นเจ้าถิ่นที่ทำเกมรุกบุกเข้าใส่ทีมเยือนอย่างหนัก มีโอกาสเข้าทำมากมาย แต่ก็ยังไม่ผ่านเกมรับทีมเยือน จนกระทั่งเข้าสู่ 15 นาทีสุดท้าย เจ้าถิ่นก็มาได้ประตูย้ำชัยจากการประสานงานของตัวรุกอย่าง ฟิล โฟเด้น และ บูกาโย้ ซาก้า ก่อนจะเป็น แฮร์รี่ เคน ที่ได้ยิงจ่อๆ เข้าประตูไป หลังจากนั้นอังกฤษมีโอกาสบวกประตูเพิ่มจากลูกยิงไกลของ ดีแคลน ไรซ์ ที่ตุงตาข่ายไปแล้ว แต่กรรมการจับเป็นลูกล้ำหน้า เนื่องจาก แฮร์รี่ เคน ที่ยืนล้ำหน้าอยู่มีส่วนในการเล่นบอลจังหวะดังกล่าว หลังจากนั้นทั้ง 2 ฝ่ายต่างมีโอกาสเข้าทำเป็นระยะ ก่อนที่จะจบเกมโดยเป็น 3 แต้มของทีมชาติอังกฤษด้วยสกอร์ 2-0 ยืดสถิติไม่แพ้ใครในรอบคัดเลือกออกไปอีกนัด เช่นเดียวกับทีมชาติมอลต้า ที่จบรอบคัดเลือกด้วยการไม่มีแต้ม
ผู้เล่นที่ลงสนามของทั้ง 2 ทีม
ทีมชาติอังกฤษ (4-3-3) จอร์แดน พิคฟอร์ด – คีแรน ทริปเปียร์, แฮร์รี่ แมคไกวร์, มาร์ค เกฮี, ฟิคาโย่ โทโมริ (บูกาโย่ ซาก้า) – เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, คอนอร์ กัลลาเกอร์ (ไคล์ วอล์คเกอร์), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (ดีแคลน ไรซ์) – ฟิล โฟเด้น, แฮร์รี่ เคน, มาร์คัส แรชฟอร์ด (โคล พาลเมอร์)
ทีมชาติมอลต้า (3-5-2) เฮนรี่ โบเนลโล่ – สตีฟ บอร์ก, เอ็นริโก้ เปเป้, ฌอง บอร์ก (แซ็ค มุสแค็ท) – โจเซฟ เอ็มบอง (เคน แอททาร์ด), ยานนิค ยานคัม, แม็ทธิว กิลเลาเมียร์ (บียอร์น คริสเตนเซ่น), เท็ดดี้ เทอม่า, ไรอัน คาเมนซูลี่ – พอล เอ็มบอง (โจดี้ โจนส์), เคมาร์ รีด (คีเรียน เอ็นโวโค่)
ขณะที่ผลอีกคู่ในกลุ่มเดียวกันมีการทำประตูมากถึง 7 ประตู โดยเป็นฝั่งเจ้าบ้าน “อิตาลี” เปิดสนามถล่ม “นอร์ธ มาเซโดเนีย” 5-2 จาก 2 ประตูของ เฟเดริโก้ เคียซ่า บวกกับประตูของ มัตเตโอ ดาร์เมียน, จาโคม่า ราสปาโดรี่ และ สเตฟาน เอล ชาราวี ส่วนทีมเยือนได้ 2 ประตูจาก ยานี่ อนาตาซอฟ โดยที่ในนัดสุดท้ายเป็นการชิงดำเพื่อเข้าสู่ “ยูโร 2024” ระหว่าง “ยูเครน” กับ “อิตาลี” ขณะที่อีกคู่เป็นทางด้าน “นอร์ธ มาเซโดเนีย” จะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ “อังกฤษ”