“เช็ค “เช็คบิล”” สรุปผลการแข่งขัน “ยูโร 2024” รอบคัดเลือก กลุ่มอี ประจำวันที่ 20 พฤศจิกายน 2023

“สาธารณรัฐเช็ค” เช็คบิลการันตีคว้าตั๋วลุย “ยูโร 2024” ได้สำเร็จ หลังถล่มคู่แข่ง 3-0 พร้อมผลการแข่งขันทั้งหมดของกลุ่มอี

 

 

ฟุตบอล “ยูโร 2024” รอบคัดเลือก กลุ่มอี

ทีมชาติสาธารณรัฐเช็ค 3 – 0 ทีมชาติมอลโดว่า

                    ที่สนามอันดรุฟ สตาดิโอน เจ้าถิ่นอย่าง “สาธารณรัฐเช็ค” เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ “มอลโดว่า” ที่ต่างฝ่ายยังมีลุ้นเข้าสู่ “ยูโร 2024” โดยอัตโนมัติ ซึ่งทางด้านกุนซือเจ้าถิ่นอย่าง ยาโรสลาฟ ซิลฮาวี่ ได้ข่าวดีเมื่อมอยเมียร์ ชายทิล พ้นโทษแบนกลับมาเป็นตัวเลือกในเกมรุกให้กับทีม โดยแดนกลางยังคงมีตัวหลักอย่าง โทมัส ซูเซ็ค และ มิชาล ซาดิเล็ค คอยคอนโทรลเกม ฝั่งกุนซือทีมเยือนอย่าง เซอร์เก คลาสเชนโก้ ก็จัดเต็มด้วยผู้เล่นตัวหลักอย่างครบครัน เนื่องจากต้องการ 3 แต้มสถานเดียว โดยส่ง วลาดีสลาฟ บาโบโกล, อาร์ทูร์ คราเซียน และ วีเชสลาฟ พอสมัค เป็น 3 ปราการหลัง

               เริ่มเกมในครึ่งแรก ทั้ง 2 ทีมครองเกมกันได้อย่างสูสี แต่เป็นทางด้านทีมเยือนที่ได้โอกาสลุ้นทำประตูจากลูกทุ่มไกลที่กองหลังเจ้าถิ่นโหม่งเคลียร์ไม่ขาด บอลมาเข้าทางกัปตันทีมอย่าง วาดิม ราต้า ก่อนจะแปด้วยเท้าขวา ร้อนถึงผู้รักษาประตูเจ้าถิ่นอย่าง ยินดริช สตาเน็ค ต้องกระโดดปัดออกด้านหลัง อย่างไรก็ตาม ก่อนจะผ่าน 15 นาทีแรกของเกม ก็เป็นทางด้านเจ้าถิ่นที่ออกนำไปก่อน จากลูกจ่ายไซด์ก้อยของ โทมัส โชรี่ ที่บอลทะลุมาถึงดาวิด ดูเดร่า ก่อนลากบอลเข้ากรอบเขตโทษและเอี้ยวตัวยิงด้วยเท้าขวาผ่านผู้รักษาประตูทีมเยือนอย่าง โดริยง ไรเลียน ให้บอลกลิ้งเข้าไปเป็นสกอร์ขึ้นนำ 1-0 หลังจากถูกขึ้นนำ เป็นทางด้านทีมเยือนที่ฮึดทำเกมรุกได้มากขึ้น และมีโอกาสตีเสมอจากการขึ้นเกมทางฝั่งขวาของ เวอร์จิลิอู พอสโตลาชี่ ก่อนเปิดบอลให้ โยน-คาลิน เรเวนโก้โหม่งเช็ดไปให้ นิชิต้า ม็อตปาน ยิงด้วยขวาผ่านหน้าประตูไปอย่างน่าเสียดาย ทำให้จบ 45 นาทีแรกเป็นทางด้านเจ้าถิ่นที่ออกนำไปก่อน 1-0

               เข้าสู่ครึ่งหลัง เป็นทางด้านทีมเยือนที่ปรับเปลี่ยนเกมรุกทันที โดยส่งกองกลางอย่าง มักซิม โคโจคารู และกองหน้าอย่าง วิตาลี่ ดามัสกาน ลงสนามแทน โยน-คาลิน เรเวนโก้ และ นิชิต้า ม็อตปาน เพื่อหาประตูตีเสมอและขึ้นนำให้ได้ ซึ่งรูปเกมในครึ่งหลังก็ยังคงสูสีกันเหมือนในครึ่งแรก แต่แล้ว สถานการณ์ของทีมเยือนก็แย่ลงทันทีในช่วง 10 นาทีแรกของครึ่งหลัง เมื่อต้องเหลือผู้เล่นเพียง 10 คนจากการถูกไล่ออกของปราการหลังอย่าง วลาดีสลาฟ บาโบโกล ที่ได้ 2 ใบเหลืองในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนผู้เล่นเกมรับอย่าง เซราฟิม โคโจคารี่ ลงมาแทนกองหน้าอย่าง ยอน นิโคลาเอสคู อย่างช่วยไม่ได้ ซึ่งก็ช่วยไม่ได้จริงๆ เพราะหลังจากเปลี่ยนตัวลงมาไม่ถึง 10 นาที ทีมก็ถูกเจ้าถิ่นหนีห่างออกไปอีก จากลุกเตะมุมที่ตัวสำรองของเจ้าถิ่นอย่าง วาซิล คูเซจ์ เปิดเข้ามาให้กองหน้าอย่าง โทมัส โชรี่ กระโดดเทคตัวโหม่งหน้ากรอบ 6 หลา ให้บอลเสียบคานเข้าประตูไป จากนั้นในนาทีสุดท้ายของเกม เจ้าถิ่นยังมาได้ประตูย้ำชัยจากจังหวะลูกเตะมุมที่เล่นสั้น ก่อนที่ วาซิล คูเซจ์ จะปั่นด้วยขวา โดนกองหลังทีมเยือนสกัดมาเข้าเท้ากัปตันทีมอย่าง โทมัส ซูเซ็ค ที่ยืนอยู่บนเส้นกรอบ 18 หลา ปั่นเรียดๆ โค้งๆ ด้วยขวาเข้าประตูไป ให้สกอร์เมื่อจบเกมเป็นทางเจ้าถิ่นที่เก็บ 3 แต้มด้วยสกอร์ 3-0 พร้อมตีตั๋วลุย “ยูโร 2024” ได้สำเร็จ

ผู้เล่นที่ลงสนามของทั้ง 2 ทีม

ทีมชาติสาธารณรัฐเช็ค (3-4-1-2) ยินดริช สตาเน็ค – มาร์ติน วิติค, ดาวิด ซิม่า, โทมัส โฮเลส – ลูคัส มาโซปุสต์, โทมัส ซูเซ็ค, มิชาล ซาดิเล็ค (อเล็กซ์ คราล), ดาวิด ดูเดอร้า – ลูคัส โพรวอด (ออนเดรย์ ลิงเกอร์) – โทมัส ชอรี่ (มอยเมียร์ ชายทิล), อดัม ฮโลเซ็ค (วาซิล คุเซจ์)

ทีมชาติมอลโดว่า (5-4-1) โดริยง ไรเลียน – โยน-คาลิน เรเวนโก้ (มักซิม โคโจคารู), อาร์ทูร์ คราเซียน, วลาดิสลาฟ บาโบโกล, วีเชสลาฟ พอสมัค, โอเล็ก เรียบเซี๊ยค – เวอร์จิลิอู พอสโตลาชี่, วาดิม ราต้า (วิคตอร์ สติน่า), มิฮาอิล ไซมาคอฟ (มิฮาอิล ปลาติก้า), นิชิต้า ม็อตปาน (วิตาลี่ ดามัสกาน) – ยอน นิโคลาเอสคู (เซราฟิม โคโจคารี่)

               ส่วนผลการแข่งขันอีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน เป็นเกมที่จบ 90 นาทีด้วยการแบ่งแต่มกันไปฝั่งละคะแนนด้วยผลเสมอ 0-0 ระหว่างอัลแบเนียกับหมู่เกาะแฟโร ซึ่งสถานการณ์หลังจบรอบคัดเลือกกลุ่มอี เป็นทางด้านอัลแบเนียและสาธารณรัฐเช็คที่ตีตั๋วลุย “ยูโร 2024” โดยอัตโนมัติ จากการมี 15 คะแนนเท่ากัน แต่อัลแบเนียมีเฮดทูเฮดที่ดีกว่า