“โครแอตยังไม่แซดนะจ๊ะ”สรุปผลการแข่งขัน “ยูโร 2024” รอบคัดเลือก กลุ่มดี ประจำวันที่ 18 พฤศจิกายน 2023

“โครเอเชีย” ยังรักษาสถานการณ์ในการเข้ารอบให้ตัวเองได้เป็นอย่างดี หลังปิดเกมตั้งแต่ช่วง 20 นาทีแรก พร้อมผลการแข่งขันทั้งหมดของกลุ่มดี

 

 

ฟุตบอล “ยูโร 2024” รอบคัดเลือก กลุ่มดี

ทีมชาติลัตเวีย 0 – 2 ทีมชาติโครเอเชีย

ที่สนามสกอนโต้ สตาดิโอน เจ้าบ้านอย่าง “ลัตเวีย” ที่จมบ๊วยของกลุ่มเปิดสนามรับการมาเยือนของ “โครเอเชีย” ที่ยังมีลุ้นเข้ารอบเต็มตัว โดยกุนซือเจ้าบ้านอย่าง ไดนิส คาซาเควิชส์ แม้จะไม่สามารถใช้งานกองกลางตัวหลักอย่าง เอดูอาร์ด เอ็มซิส ได้ เนื่องจากติดโทษแบน แต่ก็ส่งผู้เล่นชุดหลักลงสนามอย่างครบครัน นำโดย 3 ตัวรุกอย่าง อัลวิส ยาอุนเซมส์, ยานิส อิเคาเนี๊ยคส์ และ เอดูอาร์ด ดาสเควิช โดยมี โรเบิร์ตส์ อุลดริคอิ๊ส เป็นกองหน้าตัวเป้า ฝั่งกุนซือทีมเยือนอย่าง ซลัตโก้ ดาลิช จัด 3 ตัวรุกอย่าง อันเดรย์ ครามาริช, ลอฟโร่ เมเยอร์ และ ลูก้า อิวานูเซ็ค ลงสนาม โดยมี อันเต้ บูดิเมียร์ ยืนกองหน้าตัวเป้า

               เริ่มเกมมาไม่ถึง 10 นาที เป็นทางทีมเยือนที่บุกมาขึ้นนำก่อนอย่างรวดเร็ว จากลูกเปิดฝั่งซ้ายในกรอบเขตโทษของ ลูก้า อิวานูเซ็ค ที่จบสกอร์ด้วยซ้ายโดย ลอฟโร่ เมเยอร์ ให้โครเอเชียขึ้นนำ 1 – 0 ก่อนที่รูปเกมจะยังเป็นทีมเยือนที่ครองเกมได้มากกว่า และผ่านไปยังไม่ถึง 20 นาที โครเอเชียก็มาได้ประตูหนีห่างจากการประสานด้วยทางฝั่งขวา ก่อนจะเป็น โยซิป สตานิซิช ที่ปาดด้วยขวาเข้าในให้ ลอฟโร่ เมเยอร์ แอสซิสท์ให้ อันเดรย์ ครามาริช ทำประตูด้วยขวาจากระยะ 16 หลา ผ่านมือผู้รักษาประตูเจ้าบ้านอย่าง โรเบิร์ตส์ โอโซลส์ เข้าไปให้ทีมเยือนบุกมาหนีห่างเป็น 2-0 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ดังกล่าว

               เข้าสู่ครึ่งหลัง ยังคงเป็นทีมเยือนที่ยังทำเกมรุกได้ดีกว่าอย่างชัดเจน มีโอกาสจากลูกโหม่งของ โยซิป ซูตาโล่ ที่ผู้รักษาประตูทีมเจ้าบ้านต้อิงโชว์ซูเปอร์เซฟปัดออกหลัง หรือตัวสำรองอย่า ง มาริโอ ปาซาลิช ที่มีโอกาสบวกประตูให้ทีมทั้งจากลูกยิงด้วยเท้าขวา แต่ก็ติดเซฟผู้รักษาประตู รวมถึงชนโคนเสาในช่วงนาทีสุดท้ายไปอย่างน่าเสียดานย ทำให้ เมื่อจบ 90 นาที เป็นทางด้านโคราเอเชียที่บุกมาเก็บ 3 แต้ม และรักษาโอกาสลุยศึก “ยูโร 2024” ของตัวเองไว้ได้จนถึงนัดสุดท้าย ขณะที่ลัตเวียจบโปรแกรมรอบคัดเลือกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ผู้เล่นที่ลงสนามของทั้ง 2 ทีม

ทีมชาติลัตเวีย (4-2-3-1) โรเบิร์ตส์ โอโซลส์ – โรเบิร์ตส์ ซาวาลเนี๊ยคส์, อันโตนิชส์ เชอร์โนมอร์ดิชส์, ดาเนี่ยลส์ บาโลดิส, อันเดรย์ส ซิกานอิ๊คส์ – คริสเตอร์ส โทเบอร์, อเล็คเซย์ส ซาเวลเยฟส์ – อัลวิส ยาอุนเซมส์ (ไรวิส ยูร์คอฟสกี้ส์), ยานิส อิเคาเนี๊ยคส์, เอดูอาร์ด ดาสเควิช (ดมิทริชส์ เซเลนคอฟส์) – โรเบิร์ตส์ อูลดริคิส (ไรมอนด์ส โครลลิส)

ทีมชาติโครเอเชีย (4-3-3) โดมินิค ลิวาโควิช – โยซิป สตานิซิช, โยซิป ซูตาโล่, มาร์ติน เออร์ลิช, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล – ลูก้า โมดริช (มาร์ติน บาทูริน่า), มาร์เซโล่ โบรโซวิช, อันเดรย์ ครามาริช (มาร์โก ปาซาลิช) – ลอฟโร่ เมเยอร์, อันเต้ บูดิเมียร์, ลูก้า อิวานูเซ็ค (มาริโอ ปาซาลิช)

               ส่วนผลอีกคูในกลุ่มเดียวกัน เป็นทางด้านทีมเยือนอย่าง “เวลส์” ที่ได้ประตูตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก จากการทำเข้าประตูตัวเองของแบ็คซ้ายเจ้าถิ่นอย่าง “นาอีร์ ติ๊กนิซยาน” ดึง 1 แต้มกลับมาจาก “อาร์เมเนีย” ทำให้ทีมยังมีลุ้นในนัดสุดท้าย ซึ่งจะมีโปรแกรมเปิดบ้านรับการมาเยือนของ ตุรเคีย ที่ตีตั๋วลุย “ยูโร 2024” เป็นที่เรียบร้อย ส่วนอีกคู่ เป็นการพบกันระหว่าง โครเอเชีย ที่จะปิดบ้านรับการมาเยือนของ อาร์เมเนีย