“โรมาเนียไม่เพลียแล้ว” สรุปผลการแข่งขัน “ยูโร 2024” รอบคัดเลือก กลุ่มไอ ประจำวันที่ 18 พฤศจิกายน 2023

               “โรมาเนีย” การันตีตัวเองเป็น 1 ใน 2 ทีมของกลุ่มไอ ที่ได้สิทธิ์ลุย “ยูโร 2024” โดยอัตโนมัติ หลังบุกเฉือนอิสราเอลที่สนามกลาง 2-1 แม้จะเหลือผู้เล่นเพียง 10 คนก็ตาม นอกจากนี้ยังมีสรุปผลการแข่งขันทั้งหมดของกลุ่มไอเช่นเคย

 

 

ฟุตบอล “ยูโร 2024” รอบคัดเลือก กลุ่มไอ

ทีมชาติอิสราเอล 1 – 2 ทีมชาติโรมาเนีย

ที่สนามปุสกัส ปานโช่ อารีน่า ประเทศฮังการี เจ้าบ้านอย่าง “อิสราเอล” ที่ต้องใช้สนามกลางต้อนรับการมาเยือนของ “โรมาเนีย โดยที่ต่างฝ่ายต่างมีเงื่อนไขในการลุ้นเข้ารอบที่ต่างกันสิ้นเชิง ทางเจ้าบ้านจำเป็นต้องเก็บ 3 แต้มสถานเดียว เพื่อไปลุ้นต่อในนัดสุดท้าย ต่างจากทีมเยือนที่แค่มีแต้มก็จะการันตีการเข้ารอบ โดยทางด้านกุนซือเจ้าบ้านอย่าง อลอน ฮาซาน ส่ง 3 ประสานแดนกลางอย่าง ดอร์ เปเรตซ์, เนต้า ลี่ และ ออสการ์ กลูคฮ์ ลงสนามอย่างครบครัน ฝั่งทีมเยือนของกุนซือ เอ็ดเวิร์ด ยอร์ดาเนสคู ส่ง ยานิส ฮาจี้ ลูกชายดาวยิงระดับตำนานอย่าง “จอร์จี้ ฮาจี้” ลงสนามร่วมกับ ราซวาน มาริน และ นิโกเล สตานซิอู ในแดนกลางของทีม

เริ่มเกมมาไม่ถึง 2 นาที เป็นทางด้านเจ้าบ้านอย่างอิสราเอลที่ฝ่ายออกนำไปอย่างรวดเร็วจากลูกโหม่ของเอแรน ซาฮาวี่ โดยลูกโหม่งชงของ มิเกล วิตอร์ ที่มาจากลูกเตะมุมของ ออสการ์ กลูคฮ์ แต่ในช่วงไม่พ้น 10 นาทีแรก เป็นทางด้านโรมาเนียที่ตีเสมอได้อย่างรวดเร็ว จากการซ้ำลูกยิงของ เดนิส ดรากุส ที่ผู้รักษาประตูเจ้าบ้านอย่าง โอมรี่ กลาเซอร์ ปัดชนคานมาเข้าทาง จอร์จ ปุสคัส โหม่งซ้ำเข้าประตูไปให้เกมกลับมาเท่ากันในเวลาอันรวดเร็ว ก่อนที่รูปเกมจะเป็นทางฝั่งเจ้าบ้านที่ครองเกมได้มากกว่า แต่ยังหาจังหวะเข้าทำอย่างจะแจ้งไม่ได้ กลับกันเป็นทางด้านทีมเยือนที่มีโอกาสหวาดเสียวมากกว่า จากลูกยิงของ เดนิส ดรากุส ที่ชนเสาไปอย่างน่าเสียดาย ทำให้จบ 45 นาทีแรกยังคงเสมอกัน 1-1

เข้าสู่ครึ่งหลังยังคงเป็นทางด้านอิสราเอลที่ครองเกมบุกเข้าใส่โรมาเนียอย่างต่อเนื่อง มีโอกาสทำประตูมากมาย แต่ก็พลาดเป้าไปอย่างน่าเสียดาย กลายเป็นว่าเมื่อพ้นหนึ่งชั่วโมงแรกของเกม กลับเป็นโรมาเนียที่บุกมาขึ้นนำจากลูกยิงของ ยานิส ฮาจี้ ที่พยายามปาดบอลเข้าพื้นที่ตรงกลาง แต่บอลกระเด้งมาเข้าทาง ก่อนหวดด้วยซ้ายเข้าประตูไป หลังจากประตูดังกล่าว โรมาเนียมีลุ้นที่จะหนีห่างเพิ่ม จากลูกยิงของ วาเลนติน มิไฮล่า ที่ นิโกเล สตานซิอู บรรจงถวายพานมาให้ แต่กลายเป็นเจ้าตัวยิงพลาดจนบอลไปเข้ามือผู้รักษาประตู ก่อนที่ช่วงท้ายเกมจะเป็น วาเลนติน มิไฮล่า ที่เข้าเสียบสกัดหนักจนโดนใบแดงโดยตรง ทำให้โรมาเนียต้องเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน แต่กลายเป็นว่า 10 คนของโรมาเนียก็เหนียวพอที่จะไม่เสียประตูเพิ่มจนจบ 90 นาที และสามารถตีตั๋วลุย “ยูโร 2024” ได้อย่างเป็นทางการด้วยชัยชนะ 2-1 พร้อมส่งให้อิสราเอลเข้าสู่รอบเพลย์ออฟอย่างเป็นทางการเช่นกัน

ผู้เล่นที่ลงสนามของทั้ง 2 ทีม

ทีมชาติอิสราเอล (4-3-3) โอมรี่ กลาเซอร์ – เอลี่ ดาซ่า (กาบี้ คานิชอฟสกี้), มิเกล วิตอร์, ชอน โกลด์เบอร์ก, รอย เรวิโว่ (ไท บารีโบ้) – ดอร์ เปเรตซ์, เนต้า ลาวี่ (โมฮาเหม็ด อาบู ฟานี่), ออสการ์ กลูคฮ์ – ดอร์ ทูร์เกมาน, เอแรน ซาฮาวี่, อานัน คาไลลี่ (ไอแดน กอร์โน่)

ทีมชาติโรมาเนีย (5-3-2) โฮราติอู มอลโดวาน, อันเดร ราติอู, วลาดิมีร์ สเครซิอู (มาริอุส มาริน), อันเดร บูร์ก้า, ราดู ดรากูซิน, นิคูซอร์ บานซู –  ยานิส ฮาจี้ (ฟลอริเนล โคมัน), ราซวาน มาริน (อเล็กซานดรู ซิคาดัลอู), นิโกเล สตานซิอู (อาเดรียน รุส) – เดนิส ดรากุส (วาเลนติน มิไฮล่า), จอร์จ ปุสกัส

               ส่วนอีก 2 คู่ในกลุ่มเดียวกัน เป็นทางด้าน “สวิตเซอร์แลนด์” ที่ปิดจ็อบของตัวเองได้เช่นกัน หลังเก็บแต้มสำคัญในการเปิดบ้านเสมอ “โคโซโว” 1-1 จากลูกยิงของ รูเบน วาร์กาส ก่อนที่ มูฮาเหม็ต ฮายเซนี่ จะมาตีเสมอได้ในช่วงท้ายเกม ขณะที่อีกคู่ เป็นทางด้านเบลารุสได้ประตูชัยจาก เดนิส ลัปเตฟ ในช่วง 10 นาทีสุดท้ายเฉือนชนะอันดอร์ร่า 1-0 โดยที่เกมในนัดสุดท้ายของรอบคัดเลือก เป็นศึกการชิงแชมป์กลุ่มระหว่าง โรมาเนีย ที่จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ สวิตเซอร์แลนด์ ส่วนอีก 2 คู่ เป็นการพบกันระหว่าง อันดอร์ร่ากับอิสราเอล และ โคโซโว ที่จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ เบลารุส