เปิดภาพชอต VAR ให้ประตู “ญี่ปุ่น” สุดกังขา ดราม่าเป็นญี่ปุ่น บอลโลก 2022

เปิดภาพชอตดราม่าประจำเกม ญี่ปุ่น-สเปน ซึ่งถึงนาทีนี้ชาวเน็ตหลายคนยังคงเถียงกันไม่รู้จบว่าบอลออกหลังไปแล้วหรือยังไม่ออก วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม 2565 ควันหลงหลังจากเกมที่ ทีมชาติญี่ปุ่น เอาชนะ ทีมชาติสเปน ไปด้วยสกอร์ 2-1 ในเกมสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่มของศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่ผ่านมา และส่งผลให้ ดราม่าเป็นญี่ปุ่น อย่างหนักมาก เพราะได้เข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม E อย่างไรก็ตามมันก็มีดราม่าจากเกมนี้ โดยในนาที 53 ของเกมนี้ อาโอะ ทานากะ ทำประตูให้ญี่ปุ่นออกนำ 2-1 ได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ในตอนแรก ผู้ตัดสินบอกว่าบอลนั้นออกหลังไปก่อนที่  คาโอรุ มิโตมะ จะเตะกลับมาให้ อาโอะ ทานะกะ ทำประตู

ซึ่ง VAR ได้เช็กภาพอยู่นาน 2-3 นาที ก่อนจะตัดสินใจให้เป็นประตูกับญี่ปุ่น โดยภาพแสดงให้เห็นว่า ยังมีส่วนของลูกบอลที่ยังอยู่บนเส้นจึงทำให้ชอตนี้บอลยังไม่ออกหลัง อย่างไรก็ตาม แฟนบอลจำนวนมากต่างคอมเมนต์ถึงชอตนี้กันซึ่งมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับคำตัดสิน ซึ่งแฟนบอลบางรายนำไปเปรียบเทียบกับชอตลูกยิงของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ในฟุตบอลโลก 2010 ที่บอลข้ามเส้นไปแล้วแต่ผู้ตัดสินไม่ให้ประตู จึงทำให้มีเทคโนโลยี Goal Line มาจนถึงวันนี้ แต่กก็ยังอดที่จะเกิดเหตุการณ์ ดราม่าเป็นญี่ปุ่น ได้อีกครั้งในปี 2022

ดาม่าแล้ว ดาม่าได้อีก ดราม่าเป็นญี่ปุ่น เสนอ เอเอฟซี ขอรอคัดบอลโลกรอบ 3, เหตุคู่แข่งรอบ 2 ห่างชั้นเกินไป

กลายเป็นประเด็นให้พูดถึงในโลกโซเชียลและวงการฟุตบอลเอเชียทันที สำหรับการเคลื่อนไหวครั้งนี้ของสมาคมกีฬาฟุตบอลญี่ปุ่น หรือ เจเอฟเอ ที่บ่งบอกทัศนคติถึงชาติเพื่อนร่วมทวีปอย่างชัดเจน เมื่อล่าสุด วันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา sponichi.co.jp เว็บไซต์ดังแห่งแดนปลาดิบได้ตีข่าวว่า ทีมชาติญี่ปุ่น มองคู่แข่งในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก รอบ 2 ว่าฝีเท้าห่างชั้นเกินไป และต้องการไปรอเล่นในการคัดเลือก รอบ 3 เลย แต่สุดท้าย สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี ไม่อนุมัติตามคาด จึงทำให้เหตุการณ์ ดราม่าเป็นญี่ปุ่น กลับมาเป้นกระแสอีกครั้ง

หลังจากยกระดับกลายเป็นทีมระดับโลกไปเรียบร้อยในช่วงทศวรรษหลังที่ผ่านมา ประกอบกับการผลงานคว่ำ 2 ชาติดีกรีอดีตแชมป์โลกอย่าง เยอรมนี และ สเปน ในฟุตบอลโลก 2022 ชนิดช็อกแฟนบอลทั่วโลก พร้อมรั้งอันดับ 20 ของโลกในฟีฟา แรงกิง ณ ตอนนี้ ด้วยเหตุนี้ โคโซ ทาชิมะ ประธานลูกหนังญี่ปุ่นวัย 65 ปี จึงมองว่า การลงเล่นฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 ไม่จำเป็นต่อทัพแข้งซามูไร เนื่องจากมีความห่างชั้นกับคู่แข่งมากเกินไป แถมบางเกมชนะกันด้วยสกอร์สองหลักก็มี จึงเสนอเรื่องไปยัง เอเอฟซี เพื่อขอให้พิจารณาปรับกฎคัดเลือกใหม่ โดยให้ทีมอันดับโลกสูงๆ อย่าง ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ออสเตรเลีย และ ซาอุดิอาระเบีย รอเล่นในรอบที่ 3 เลย