จุดอ่อนจุดแข็ง ของทีมชาติ อังกฤษ ในการแข่งขัน ยูโร 2020

จุดอ่อนจุดแข็ง ของทีมชาติ อังกฤษ ในการแข่งขัน ยูโร 2020

จุดอ่อนจุดแข็ง ของทีมชาติ อังกฤษ ในการแข่งขัน ยูโร 2020

 

 

banner1

ทีมชาติอังกฤษ ผ่านรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ ที่มีเพื่อนร่วมกลุ่มอย่าง สาธารณรัฐเช็ก, โคโซโว, บัลแกเรีย และ มอนเตเนโกร ด้วยการคว้าชัยชนะ 7 จาก 8 นัด โดยมีเพียงทีมชาติ เบลเยียม (40 ประตู) เท่านั้นที่ทำประตูได้มากกว่า อังกฤษ (37 ประตู) ในรอบดังกล่าวซึ่ง แฮร์รี เคน กลายเป็นดาวซัลโวในรอบนี้ที่สถิติการซัลโว 12 ประตู ให้หลังจากนั้น พวกเขาจบศึก ยูฟ่า เนชันส์ลีก ด้วยการคว้าอันดับที่ 3 ของกลุ่มตามหลัง เบลเยียม และ เดนมาร์ก แต่สามารถกำชัยชนะโปรแกรม ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก 6 นัดหลังสุด ซึ่งโดยรวมนับว่าทีมอยู่ในฟอร์มที่ร้อนแรงสุดๆ

จุดแข็งของทีมชาติ อังกฤษ ที่พาทีมเข้าสู่รอบชิงได้

นับเป็นครั้งแรกของทีมชาติ อังกฤษ​ นับตั้งแต่ยุค ‘โกลเด้น เจเนอเรชัน’ ภายใต้การคุมทีมของ สเวน-โกรัน อีริคส์สัน ที่พวกเขามีทรัพยากรชั้นนำให้เลือกลงสนามเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะบรรดาแข้งตัวรุกที่มีคุณภาพ ทีมของ เซาธ์เกต บนหน้ากระดาษดูน่าตื่นตาตื่นใจเมื่อเต็มไปด้วยนักเตะดาวรุ่งและขุนพลหน้าใหม่ดาหน้าเข้ามามีส่วนร่วมกับทีมจากแกนหลักใน ฟุตบอลโลก 2018

พวกเขาร่วมวง ยูโร 2020 ด้วยการต่อยอดความสำเร็จที่มีจากระดับสโมสรอย่างแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก (เมสัน เมาท์), เด็กปั้นของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา (ฟิล โฟเด้น), ดาวซัลโว พรีเมียร์ลีก (แฮร์รี เคน) และกัปตันจาก ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ แฮร์รี แม็คไกวร์) และในยุคของ เซาธ์เกต ดูจะสามารถรับมือกับความกดดันในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ได้ดีเมื่อพวกเขาเคยไปไกลถึงรอบรองชนะเลิศของ เวิลด์คัพ 2018 และ ยูฟ่า เนชันส์ลีก 2018/19 และการได้เล่นในทัวร์นาเมนต์ใหญ่อย่าง ยูโร 2020 ในบ้านตัวเองที่ เวมบลีย์ พร้อมกับเสียงเชียร์ของแฟนบอลจะมีส่วนผลักดันพวกเขาให้พาฟุตบอล ‘กลับบ้าน’ ได้ไม่มากก็น้อย

จุดอ่อนที่ทำให้ทีมชาติ อังกฤษ ทำได้เพียงแค่ รองแชมป์ ยูโร 2020

ประสบการณ์บนเวทีระดับนานาชาติ,​ แข้งกระดูกเปราะและความไม่หลากหลายของแท็คติกจาก แกเร็ธ เซาธ์เกต ดูจะเป็นปัญหาที่ อังกฤษ ต้องเผชิญใน ยูโร 2020 แม้ว่า สิงโตคำราม ชุดนี้จะเต็มไปด้วยแข้งดาวรุ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจเต็มทีม นับเป็นชาติที่มีอายุเฉลี่ยน้อยที่สุดเป็นลำดับที่ 2 ของรายการนี้โดยมีนักเตะเพียง 4 รายจากทั้งหมด 26 คนที่ติดทีมชาติมากกว่า 50 นัด (เฮนเดอร์สัน, เคน, ราฮีม สเตอร์ลิง และ ไคล์ วอล์คเกอร์) และอีก 16 รายเป็นการเล่นในทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์เป็นครั้งแรก

นั่นทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่า ยูโร 2020 อาจไม่ใช่จุดพีคของทีมชุดนี้โดยมีความเป็นไปได้ที่เวลาจะบ่มเพาะพวกเขาให้ยกระดับสู่จุดสูงสุดใน ฟุตบอลโลก 2022 หรือ ยูโร 2024 ประเด็นถัดมาคือแข้งคีย์แมนทีมชาติ อังกฤษ อย่าง แฮร์รี แม็คไกวร์ กับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เพิ่งจะสลัดอาการบาดเจ็บกลับมาลงซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมได้ไม่นานซึ่งตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คและมิดฟิลด์ตัวกลางยังคงเป็นปัญหาสำหรับ เซาธ์เกต แม้ว่าทั้งคู่จะฟิตเต็มถังก็ตาม

ท้ายที่สุด เซาธ์เกต ดูจะเป็นกุนซือที่ได้รับการเคารพจากบรรดาลูกทีมและเป็นที่ชื่นชอบของแฟนบอลจากความสำเร็จการพาทีมไปได้ไกลใน เวิลด์คัพ 2018 และ เนชันส์คัพ 2018/19 แต่สิ่งที่ขาดหายไปสำหรับนายใหญ่วัย 50 ปีคือความหลากหลายในเชิงแท็คติกของเจ้าตัวจากหลักฐานที่เกิดขึ้นในช่วงต่อเวลาพิเศษของเกมกับ โครเอเชีย ฟุตบอลโลก 2018 นัดตัดเชือก เช่นเดียวกับแมตช์รอบรองฯ กับ เนเธอร์แลนด์ ใน เนชันส์ลีก

Leave a Reply